การจัดเก็บรายได้จากธุรกิจการพนันและสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex):
กรณีศึกษากลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว (Developed Countries)

การจัดเก็บรายได้จากธุรกิจการพนันและสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex):
กรณีศึกษากลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว (Developed Countries)

บทความโดย
นายธณัฐ พวงนวม
นายวณัช บัณฑิตาโสภณ

1. บทนำ

เมื่อกล่าวถึงธุรกิจสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) หลายท่านมักนึกถึงธุรกิจการพนันและกาสิโนในรูปแบบต่าง ๆ ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามสื่อต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน โดยเป็นที่ทราบกันดีว่านโยบายที่เปิดกว้างต่อการดำเนินธุรกิจการพนันและสถานบันเทิงแบบครบวงจรเป็นที่แพร่หลายในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วเนื่องจากกลุ่มประเทศดังกล่าวมีกฎหมายรองรับเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจการพนันและสถานบันเทิงแบบครบวงจรอย่างเป็นระบบรวมทั้งรัฐบาลให้การสนับสนุนสำหรับการดำเนินธุรกิจดังกล่าวโดยการแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งจากการประกอบกิจการข้างต้นสำหรับโครงการเพื่อสังคม (Corporate Social Responsibility: CSR) องค์กรสาธารณกุศล รวมทั้งเป็นรายได้แก่รัฐบาลท้องถิ่น ซึ่งการประกอบกิจการที่เกี่ยวข้องกับการพนันและสถานบันเทิงแบบครบวงจรนอกจากช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวแล้วยังทำให้เกิดการจ้างงานและกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศด้วยอันนำไปสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศอีกทางหนึ่ง โดยบทความฉบับนี้ทางคณะผู้เขียนได้ทำการศึกษาแนวทางการจัดเก็บรายได้ที่เกี่ยวข้องกับการพนันและสถานบันเทิงแบบครบวงจรในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งประกอบไปด้วยประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศออสเตรเลีย ประเทศเดนมาร์ก ประเทศอังกฤษ และประเทศสิงคโปร์ซึ่งนอกจากจะอยู่ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ยังมีทำเลที่ตั้งอยู่ตามภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก ทั้งในทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ทวีปยุโรป และทวีปเอเชีย จึงทำให้การศึกษาแนวทางการจัดเก็บรายได้จากธุรกิจดังกล่าวมีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

2. ธุรกิจการพนันและสถานบันเทิงแบบครบวงจรในประเทศสหรัฐอเมริกา

ประเทศสหรัฐอเมริกาอนุญาตให้มลรัฐต่าง ๆ สามารถประกอบธุรกิจการพนันได้ยกเว้นมลรัฐฮาวายและมลรัฐยูทาห์ที่ไม่อนุญาตให้ประกอบธุรกิจการพนันทุกชนิด โดยการพนันที่ถูกกฎหมายในประเทศสหรัฐอเมริกาสามารถแบ่งได้เป็น 5 ประเภทหลัก ได้แก่ การประกอบธุรกิจกาสิโน (Commercial Casino Gaming) การประกอบกิจการเกมการพนันเพื่อการกุศล (Charitable Gaming) สลากกินแบ่ง (Lotteries) ธุรกิจเกมการพนันของชนพื้นเมืองอินเดียนแดง (Native American Gaming) และการพนันทายผลการแข่งขัน (Pari-mutuel Wagering)

สำหรับการประกอบธุรกิจกาสิโน (Commercial Casino Gaming) มีเพียง 38 มลรัฐที่สามารถประกอบธุรกิจดังกล่าวได้ของประเทศ ทั้งนี้ ข้อมูลจาก Urban Institute รายงานว่า ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาประเทศสหรัฐอเมริกามีรายได้เฉลี่ยจากการประกอบธุรกิจการพนันอยู่ที่ 30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยเป็นรายได้จากการประกอบธุรกิจกาสิโนเฉลี่ยอยู่ที่ 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

ภาพที่ 1 รายได้จากการประกอบธุรกิจการพนันในประเทศสหรัฐอเมริกา

หมายเหตุ: ไม่รวมรายได้จากการพนันทายผลการแข่งขันกีฬา (Pari-mutuel Wagering)
ที่มา: Urban Institute (2563)

โดยทั่วไปแล้วการดำเนินการด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจพนันแบ่งได้เป็น 2 ระดับ คือ กฎหมายสหพันธรัฐ (Federal Law) และกฎหมายของมลรัฐต่าง ๆ (State Law) ซึ่งการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการพนันจะเป็นอำนาจของมลรัฐต่าง ๆ ที่จะออกกฎหมายบังคับใช้ภายในมลรัฐของตนเองส่วนรัฐบาลกลางจะเข้ามามีบทบาทในการกำหนดทิศทางสำหรับกรณีที่รัฐบาลเห็นว่ามีผลกระทบในระดับประเทศเป็นวงกว้าง อาทิ Indian Gaming Regulation (U.S Code, Title 25, Chapter 29) (2000) ซึ่งรัฐบาลกลางได้ออกกฎหมายฉบับดังกล่าวขึ้นในปี พ.ศ. 2531 โดยมีวัตถุประสงค์ให้ชนพื้นเมืองอินเดียนสามารถประกอบธุรกิจการพนันในพื้นที่ของตนเองได้และกำหนดให้มีการนำเงินรายได้จากธุรกิจการพนันในเขตชนเผ่าไปใช้ภายในวัตถุประสงค์ 5 ประการ ได้แก่

(1) เพื่อใช้เป็นงบประมาณในการบริหารงานของรัฐบาลชนเผ่า

(2) เพื่อใช้ในกิจการสวัสดิการสังคมทั่วไปของชนเผ่าและสมาชิก

(3) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจ

(4) เพื่อบริจาคให้แก่องค์กรการกุศล

(5) เพื่อเป็นเงินทุนในการบริหารงานของหน่วยงานของรัฐบาลท้องถิ่น สำหรับกฎหมายของมลรัฐต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตให้ประกอบธุรกิจการพนัน เพื่อใช้ควบคุม


และกำกับการเล่นการพนันอาจมีความแตกต่างกันไป อาทิ มลรัฐนิวยอร์กซึ่งปัจจุบันได้กำหนดให้มีการเล่นพนันหลายรูปแบบ ได้แก่ กาสิโนแบบโต๊ะ (Table Games) สลากกินแบ่ง (Lotteries) การพนันทายผลการแข่งขัน (Racinos) การพนันแข่งม้าในสนามแข่งม้าทั่วไป และการเล่นโป๊กเกอร์ที่อยู่นอกกาสิโน (Home Games) นอกจากนี้การกำหนดอัตราการจัดเก็บภาษีจากการดำเนินธุรกิจกาสิโนในประเทศสหรัฐอเมริกาขึ้นอยู่กับกฎหมายของแต่ละมลรัฐ โดยในแต่ละมลรัฐสามารถจัดเก็บภาษีจากธุรกิจดังกล่าวได้สูงถึงร้อยละ 51 ของรายรับ

3. ธุรกิจการพนันและสถานบันเทิงแบบครบวงจรในประเทศออสเตรเลีย

การเล่นการพนันที่ถูกกฎหมายในประเทศออสเตรเลียสามารถจำแนกได้เป็นกลุ่มใหญ่ ๆ คือการพนันที่ไม่ใช่การทายผลการแข่งขัน การพนันที่เป็นการทายผลการแข่งขัน และการพนันรูปแบบอื่น ๆ โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาการเล่นเครื่องเล่มเกมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Gaming Machines: EGMs) เป็นการพนันที่คนออสเตรเลียนิยมเล่นอย่างมาก ส่วนใหญ่จะเป็นเกมที่ผู้เล่นจะเล่นกับเครื่องเล่นโดยลำพัง แต่ก็มีเครื่องเล่นประเภท Multi-Terminal Gaming Machines (MTGMs) ที่มีผู้เล่นหลายคน เช่น ไพ่แบล็กแจ็ค (Blackjack) และรูเล็ท (Roulette) เป็นต้น

การบริหารนโยบายในการควบคุมหรือกำกับดูแลธุรกิจการพนันในออสเตรเลียจะอยู่ในความรับผิดชอบของรัฐบาลในแต่ละรัฐ กล่าวคือรัฐต่าง ๆ จะกำหนดนโยบายออกกฎหมายและมาตรการควบคุมดูแลการพนันในรัฐของตน อย่างไรก็ดีการเติบโตของอุตสาหกรรมการพนันในออสเตรเลียทำให้เกิดผลเสียหรือผลกระทบด้านลบต่อประชาชนและสังคมโดยรวม ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมารัฐบาลกลางของออสเตรเลียจึงเริ่มให้ความสำคัญกับการศึกษาสถานการณ์ปัญหาทางสังคมที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการพนันและได้พยายามเสนอแนะมาตรการที่จำเป็นในการป้องกันหรือแก้ไขปัญหาเหล่านี้

ประเทศออสเตรเลียไม่มีกฎหมายของรัฐบาลกลางที่ควบคุมจัดการการประกอบธุรกิจพนันในลักษณะทั่วไป เว้นแต่กรณีที่รัฐบาลกลางเห็นว่ามีความจำเป็นอย่างมาก ซึ่งในปี พ.ศ. 2544 รัฐบาลกลางได้ออกกฎหมายควบคุมการพนันออนไลน์หรือการพนันทางอินเทอร์เน็ต เนื่องจากการพนันออนไลน์หรือการพนันทางอินเทอร์เน็ตเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในออสเตรเลียพร้อม ๆ กับการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่แพร่หลายทั่วโลก รัฐบาลออสเตรเลียจึงผลักดันให้มีกฎหมายควบคุมการพนันออนไลน์ขึ้นชื่อว่า “Interactive Gambling Act 2001” โดยมีเจตนารมณ์เพื่อควบคุมธุรกิจการพนันออนไลน์ในประเทศและคุ้มครองประชากรออสเตรเลียที่เล่นพนันทั้งในประเทศและต่างประเทศ

สำหรับกฎหมายของรัฐต่าง ๆ มีความสำคัญในการควบคุมอุตสาหกรรมการพนันซึ่งแต่ละรัฐสามารถริเริ่มตรากฎหมายของตนเองได้ อาทิ รัฐวิคตอเรียได้ตรากฎหมายควบคุมการพนันที่มีลักษณะทั่วไปคือ มีบทบัญญัติที่ควบคุมการเล่นพนันประเภทต่าง ๆ เช่น Gambling Regulation Act และ Gaming Control Act เป็นต้น รวมทั้งมีการตรากฎหมายควบคุมธุรกิจกาสิโน (Casino Control Act) นอกจากนี้ ในบางรัฐจะมีการออกกฎหมายเฉพาะเพื่อจัดตั้งองค์กรหรือหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ควบคุม กำกับดูแล ธุรกิจพนันเป็นการเฉพาะเช่น Gaming and Wagering Commission Act 1987 ของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย นอกจากนี้ การกำหนดอัตราการจัดเก็บภาษีจากการดำเนินธุรกิจกาสิโนในประเทศออสเตรเลียขึ้นอยู่กับกฎหมายของแต่ละรัฐ โดยในแต่ละรัฐสามารถจัดเก็บภาษีจากธุรกิจดังกล่าวได้สูงถึงร้อยละ 65 ของรายรับ

ภาพที่ 2 รายได้จากการประกอบธุรกิจการพนันในประเทศออสเตรเลีย ในช่วงปี พ.ศ. 2562 – 2563


ที่มา: Australasian Gaming Council

Australasian Gaming Council รายงานว่า ในช่วงปี พ.ศ. 2562 – 2563 ธุรกิจการพนันในประเทศออสเตรเลียเสียภาษีให้แก่รัฐบาล จำนวนประมาณ 6.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐโดยเป็นภาษีจากธุรกิจกาสิโน จำนวน 685 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศออสเตรเลียถึง 3,523 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากทำให้เกิดการจ้างงาน การท่องเที่ยว และการบริโภคจากการมีธุรกิจกาสิโนในประเทศ นอกจากนี้ รายได้ที่ได้จากการเสียภาษีธุรกิจการพนันจะถูกนำส่งเข้ากองทุนเพื่อแบ่งปันให้แก่สังคม โดยมีชื่อว่า “Community Contribution and Harm Prevention Funds” ซึ่งมีการนำไปใช้เพื่อการกีฬาและความบันเทิงราวร้อยละ 56.4 ของเงินจากกองทุนดังกล่าว

4. ธุรกิจการพนันและสถานบันเทิงแบบครบวงจรในประเทศเดนมาร์ก

ประเทศเดนมาร์กมีกาสิโนจำนวนมากแม้จะเป็นประเทศที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก โดยปัจจุบันมีกาสิโนทั้งหมด 6 แห่ง ตั้งอยู่ในเมืองใหญ่ ๆ ของประเทศเดนมาร์ก ได้แก่ อัลบอร์ก (Aalborg) ออร์ฮูส (Aarhus) โคเปนเฮเกน (Copenhagen) เฮลซิงเกอร์ (Helsingor) โอเดนเซ (Odense) และไวเล (Vejle) โดยกาสิโนในเมืองโคเปนเฮเกนเป็นกาสิโนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ซึ่งมี The Danish Gambling Authority ทำหน้าที่ควบคุมและดูแลกฎหมายเกี่ยวกับการพนัน ซึ่งรวมถึงลอตเตอรี่ การพนัน กาสิโน กาสิโนออนไลน์ เครื่องเล่นเกม และการแข่งขันโป๊กเกอร์สาธารณะ รวมถึงการออกใบอนุญาตเพื่อให้บริการการพนัน การดูแลผู้ประกอบธุรกิจการพนันและการตรวจสอบอุตสาหกรรมการพนัน ภายใต้การกำกับของ The Danish Ministry of Taxation

ปัจจุบันธุรกิจการพนันในประเทศเดนมาร์ก ประกอบด้วย 4 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจการพนันทั่วไป (Betting) ธุรกิจกาสิโนออนไลน์ (Online Casino) ธุรกิจเครื่องเล่มเกม (Gaming Machines) และธุรกิจกาสิโนบนบก (Land-based Casino) ซึ่งสามารถจัดเก็บภาษีจากธุรกิจกาสิโนได้สูงถึงร้อยละ 75 ของรายได้จากการพนันทั้งหมด โดยธุรกิจกาสิโนออนไลน์ (Online Casino) จัดเก็บในอัตราร้อยละ 20 ของรายรับ ธุรกิจกาสิโนบนบก (Land-based casino) ตั้งแต่ร้อยละ 45 ถึงร้อยละ 75 ของรายรับ ลอตเตอรี่ (Lotteries) ร้อยละ 15 ถึงร้อยละ 17.5 ของรายรับ และการพนันทายผลการแข่งขันกีฬา ร้อยละ 20 ของรายรับ

ทั้งนี้ ในภาพรวมธุรกิจการพนันสร้างรายได้ให้แก่ประเทศเดนมาร์กถึง 6.2 พันล้านโครเนอเดนมาร์กหรือประมาณ 853 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี พ.ศ. 2564 และในช่วงหลายปีที่ผ่านมาธุรกิจประเภทกาสิโนออนไลน์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งในปี พ.ศ. 2564 รัฐบาลมีรายได้จากการประกอบธุรกิจดังกล่าวถึง 2.8 พันล้านโครเนอเดนมาร์กหรือประมาณ 385 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (Spillemyndigheden; 2564)

ภาพที่ 3 รายได้จากการประกอบธุรกิจการพนันในประเทศเดนมาร์ก ในช่วงปี พ.ศ. 2560 – 2564

ที่มา: Spillemyndigheden (2564)

5. ธุรกิจการพนันและสถานบันเทิงแบบครบวงจรในประเทศอังกฤษ

การพนันถือเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอังกฤษมากกว่า 100 ปี โดยประเทศอังกฤษมีแนวนโยบายเกี่ยวกับกฎหมายการพนันในช่วงก่อนทศวรรษที่ 1960 ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การห้ามเล่นการพนัน แต่ในช่วงทศวรรษที่ 1960 กฎหมายการพนันของประเทศอังกฤษเริ่มมีการอนุญาตให้เล่นการพนันได้อย่างเสรีมากขึ้น ทั้งนี้ การพนันในประเทศอังกฤษแบ่งประเภทของการพนันไว้ 3 ลักษณะ ได้แก่ เกมพนัน (Gaming) การเดิมพัน (Betting) และลอตเตอรี่ (Lottery) โดยการพนันในประเทศอังกฤษอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Gambling Commission ซึ่งเป็นตัวแทนของ Department for Digital, Culture, Media and Sport (DCMS) ของรัฐบาล ทั้งนี้ ในปัจจุบันรัฐบาลประเทศอังกฤษจัดเก็บภาษีจากธุรกิจดังกล่าวอยู่ที่ร้อยละ 15 – 50 ของรายรับ ขึ้นอยู่กับประเภทและลักษณะของธุรกิจการพนัน (Casino.org; 2563)

สำหรับในปี พ.ศ. 2563 รายได้จากธุรกิจการพนันในประเทศอังกฤษอยู่ที่ 14.2 พันล้านปอนด์หรือ 17.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยลดลงร้อยละ 6 จากปีก่อนหน้า ซึ่งธุรกิจประเภทการพนันออนไลน์มีสัดส่วนของรายได้สูงสุด โดยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 8.1 จากปีก่อนหน้า ในขณะที่ธุรกิจประเภทกาสิโนมีผลประกอบการสูงที่สุดเมื่อเทียบกับธุรกิจการพนันประเภทอื่น โดยมีสัดส่วนของรายได้สูงถึงร้อยละ 28 ของรายได้จากธุรกิจในอุตสาหกรรมดังกล่าว ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศอังกฤษมีกาสิโนทั้งหมด 156 แห่ง โดยมี Hippodrome Casino เป็นกาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในกรุงลอนดอน อีกทั้งสถานที่ให้บริการกาสิโนส่วนใหญ่มักจะมีลักษณะเป็นบาร์และร้านอาหาร และบางแห่งก็มีการแสดงสดและโรงภาพยนตร์ด้วย

ภาพที่ 4 รายได้จากการประกอบธุรกิจการพนันในประเทศอังกฤษ ในช่วงปี พ.ศ. 2552 – 2563

ที่มา: The Gambling Commission (2020)

6. ธุรกิจการพนันและสถานบันเทิงแบบครบวงจรในประเทศสิงคโปร์

ประเทศสิงคโปร์มีธุรกิจกาสิโนที่ถูกกฎหมายครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2553 จำนวน 2 แห่ง คือ Resorts World Sentosa กับ Marina Bay Sands โดยมีนโยบายควบคุมจำนวนธุรกิจกาสิโนเพียงจำนวน 2 แห่งข้างต้นเท่านั้นไปจนถึงปี พ.ศ. 2573 และกฎหมายอนุญาตให้คนสัญชาติตนเองเข้าเล่นการพนันในกาสิโนได้แบบมีเงื่อนไขคือ ต้องเสียค่าเข้า (Entry Levy) ในอัตรารายวัน 150 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือรายปี 3,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ ทั้งนี้ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับ 1,000 ดอลลาร์สิงคโปร์โดยเป็นไปตามกฎหมายควบคุมกาสิโน (Casino Control Act)

ตารางที่ 1 รายได้รวมของกาสิโนในประเทศสิงคโปร์ ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา

รายได้รวมของกาสิโนปี 2559ปี 2560ปี 2561ปี 2562ปี 2563
Marina Bay Sands2,1642,3332,1782,167872
Resorts World Sentosa1,6361,7541,8641,820777
ที่มา: กาสิโนอาเซียนใต้เงามังกร (2565)

แม้ว่าประเทศสิงคโปร์เพิ่งอนุญาตให้มีกาสิโนมาได้ไม่นานแต่สามารถส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศได้อย่างมาก ซึ่ง 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการพนันที่ได้รับสัมปทาน ได้แก่ Las Vegas Sands จากประเทศสหรัฐอเมริกา และ Genting International จากประเทศมาเลเซีย มีกลุ่มเป้าหมายหลักของผู้เล่นกาสิโนคือชาวจีนที่เริ่มมีกำลังซื้อสูง โดยในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 Marina Bay Sands ที่บริหารโดยเครือ Las Vegas Sands เป็นรีสอร์ทกาสิโนที่สามารถทำกำไรมากที่สุดในโลกจากการประกอบธุรกิจกาสิโน ซึ่งในปี พ.ศ. 2562 พบว่า เฉพาะในส่วนของกาสิโนทำรายได้รวมกว่า 2,167 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนห้องพักในโรงแรมของรีสอร์ทสร้างรายได้เพียง 404 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับรายได้จากกาสิโนของ Resorts World Sentosa ที่บริหารโดยเครือ Genting International พบว่า ในปี พ.ศ. 2563 มีรายได้เท่ากับ 777 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำไรสุทธิ 51 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้จำนวน 1,820 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำไรสุทธิ 511 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ จากการประเมินของ Bernstein Research คาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมกาสิโนในประเทศสิงคโปร์จะฟื้นตัวในปี พ.ศ. 2568 ทั้งนี้ ในปัจจุบันรัฐบาลประเทศสิงคโปร์จัดเก็บภาษีจากธุรกิจดังกล่าวอยู่ที่ร้อยละ 22 ของรายรับ ขึ้นอยู่กับประเภทและลักษณะของธุรกิจการพนัน

ตารางที่ 2 การเปรียบเทียบการจัดเก็บรายได้ที่เกี่ยวข้องกับการพนันและสถานบันเทิงแบบครบวงจรในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว (Developed Countries)

ประเทศผู้ควบคุม และกำกับดูแลรายได้จากธุรกิจ
การพนัน
และสถานบันเทิง
แบบครบวงจร
เจ้าของรายได้
จากธุรกิจการพนัน
และสถานบันเทิง
แบบครบวงจร
รูปแบบของธุรกิจการพนัน
และสถานบันเทิงแบบครบวงจร
อัตราภาษีที่จัดเก็บ
จากธุรกิจการพนัน
และสถานบันเทิงแบบครบวงจร
การแบ่งรายได้
จากรัฐบาล
ให้แก่รัฐบาลท้องถิ่น
ประเทศสหรัฐอเมริการัฐบาลกลาง
และรัฐบาลมลรัฐ
ยกเว้นมลรัฐฮาวาย
และมลรัฐยูทาห์
3.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
(ในปี พ.ศ. 2563)  
มลรัฐต่าง ๆ
ยกเว้นมลรัฐฮาวาย
และมลรัฐยูทาห์
1) การประกอบธุรกิจกาสิโน
2) การประกอบกิจการเกมการพนันเพื่อการกุศล 3) สลากกินแบ่ง 4) ธุรกิจเกมการพนันของชนพื้นเมืองอินเดียนแดง 5) การพนันทายผลการแข่งขัน
จัดเก็บภาษีได้สูงถึงร้อยละ 51 ของรายรับขึ้นอยู่กับกฎหมาย
ของแต่ละมลรัฐ
จัดสรรตามกระบวนการ
งบประมาณ
ของแต่ละมลรัฐ
ประเทศออสเตรเลียรัฐบาลกลาง
และรัฐต่าง ๆ
6.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ในปี พ.ศ. 2563)  รัฐต่าง ๆ1) การพนันที่ไม่ใช่การทายผลการแข่งขัน 2) การพนันที่เป็นการทายผลการแข่งขัน 3) การพนันรูปแบบอื่น ๆจัดเก็บภาษีได้สูงถึงร้อยละ 65 ของรายรับขึ้นอยู่กับกฎหมาย
ของแต่ละรัฐ
จัดสรรตามกระบวนการ
งบประมาณ
ของแต่ละรัฐ
ประเทศเดนมาร์กรัฐบาลกลาง853 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ในปี พ.ศ. 2564)    รัฐบาลกลาง1) ธุรกิจการพนันทั่วไป (Betting)
2) ธุรกิจกาสิโนออนไลน์ (Online Casino) 3) ธุรกิจเครื่องเล่มเกม (Gaming Machines) 4) ธุรกิจกาสิโนบนบก (Land-based Casino)
จัดเก็บภาษีได้สูงถึงร้อยละ 75 ของรายรับ ดังนี้
1) ธุรกิจกาสิโนออนไลน์ ร้อยละ 20 2) ธุรกิจกาสิโนบนบก ตั้งแต่ร้อยละ 45 – 75 3) ลอตเตอรี่ ตั้งแต่ร้อยละ 15 – 17.5 4) การพนันทายผลการแข่งขันกีฬา ร้อยละ 20
จัดเก็บเป็น
รายได้แผ่นดิน
แล้วนำมาจัดสรร
ให้แก่รัฐบาลท้องถิ่น
ประเทศอังกฤษรัฐบาลกลาง17.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ในปี พ.ศ. 2564)    รัฐบาลกลาง1) เกมพนัน (Gaming) และการเดิมพัน (Betting) 2) เกมพนัน (Gaming) และการเดิมพัน (Betting)
    ออนไลน์ 3) ลอตเตอรี่ (Lottery)
จัดเก็บภาษีอยู่ที่ร้อยละ 15 – 50 ของรายรับขึ้นอยู่กับประเภท
และลักษณะของธุรกิจการพนัน  
จัดเก็บเป็น
รายได้แผ่นดิน
แล้วนำมาจัดสรร
ให้แก่รัฐบาลท้องถิ่น
ประเทศสิงคโปร์รัฐบาลกลาง1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ในปี พ.ศ. 2564)  รัฐบาลกลางธุรกิจกาสิโนรีสอร์ท จำนวน 2 แห่งที่ได้รับอนุญาต
จากรัฐบาลสิงคโปร์ ได้แก่ Marina Bay Sands
และ Resorts World Sentosa
จัดเก็บภาษีจากธุรกิจดังกล่าวอยู่ที่
ร้อยละ 22 ของรายรับ ขึ้นอยู่กับประเภทและลักษณะ
ของธุรกิจการพนัน
เนื่องจากไม่มีรัฐบาลท้องถิ่น
จึงไม่ได้นำมาจัดสรรให้แก่
รัฐบาลท้องถิ่น
ที่มา: รวบรวมโดยคณะผู้เขียน

7. บทสรุป

โดยสรุปจะเห็นได้ว่า ธุรกิจการพนันและสถานบันเทิงแบบครบวงจรในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วมักมีรูปแบบของการประกอบธุรกิจที่หลากหลายซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลกลาง โดยมีอัตราการจัดเก็บภาษีจากการประกอบธุรกิจดังกล่าวตั้งแต่ร้อยละ 15 – 75 ของรายรับ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข ประเภท และลักษณะของธุรกิจ รวมทั้งกฎหมายของแต่ละประเทศ ทั้งนี้ ในแต่ละประเทศได้มีการจัดสรรรายได้ที่จัดเก็บจากธุรกิจการพนันและสถานบันเทิงแบบครบวงจรบางส่วนสำหรับโครงการเพื่อสังคม (Corporate Social Responsibility: CSR) องค์กรสาธารณกุศล รวมทั้งเป็นรายได้ให้แก่รัฐบาลท้องถิ่นสำหรับการจัดบริการสาธารณะในพื้นที่ โดยจะพบว่า การประกอบธุรกิจการพันและสถานบันเทิงแบบครบวงจรนอกจากช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวแล้วยังส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งนำไปสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศได้อีกทางหนึ่ง

สุดท้ายนี้ทางคณะผู้เขียนขอขอบคุณ ดร. ปัณณ์ อนันอภิบุตร ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนานโยบายการคลังท้องถิ่นนางสาวอรกันยา เตชะไพบูลย์ ผู้อำนวยการส่วนนโยบายการคลังท้องถิ่น และ ดร. นรพัชร์ อัศววัลลภ บรรณาธิการวารสารการเงินการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ที่อยู่เบื้องหลังการสร้างสรรค์บทความนี้ และก่อนจากกันไปทางคณะผู้เขียนขอเชิญชวนผู้อ่านทุกท่านติดตามบทความเกี่ยวกับธุรกิจการพนันและสถานบันเทิงแบบครบวงจรในบทความฉบับต่อไปอีกครั้ง

บรรณานุกรม

ปธาน สุวรรณมงคล. (2554). การกระจายอำนาจ แนวคิดและประสบการณ์จากเอเชีย. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, หน้า 19.

David Burke. (2563, กุมภาพันธ์). Gambling Taxes Guide – How Gambling Tax is Handled Around The World. สืบค้น 1 มิถุนายน 2565, จาก https://casinodepositbonus.com/features/the-ultimate-guide-to-gambling-taxes-worldwide/

Focus Gaming News. The 6 best casinos in the United Kingdom. สืบค้น 1 มิถุนายน 2565, จาก https://focusgn.com/the-6-best-casinos-in-the-united-kingdom

GGRASIA. (2559, กันยายน). Macau Legend completes Savan Vegas acquisition. สืบค้น 28 เมษายน 2565, จาก https://www.ggrasia.com/macau-legend-completes-savan-vegas-acquisition/

Laura Gumbrell. Danish GGR grows to DKK6.2bn in 2021 despite land-based decline. สืบค้น
1 มิถุนายน 2565, จาก https://igamingbusiness.com/danish-ggr-grows-to-dkk6-2bn-in-2021-despite-land-based-decline/

Playtoday. (2565, สิงหาคม). What States Have Casinos? Numbers and Statistics. จาก https://playtoday.co/blog/stats/what-states-have-casinos/#:~:text=The%20United%20States%20has%20987%20casinos.&text=If%20you%20broaden%20the%20scope,one%20spot%20in%20the%20world.

Spillemyndigheden. Who is the Danish Gambling Authority, สืบค้น 1 มิถุนายน 2565, จาก https://www.spillemyndigheden.dk/en/who-danish-gambling-authority#our-work

Casino.org. The Highest And Lowest Gambling Taxes Around The World, สืบค้น 1 มิถุนายน 2565,
จาก https://www.casino.org/blog/comparing-gambling-taxes-around-the-world/#

นายธณัฐ พวงนวม
เศรษฐกรปฏิบัติการ
กองนโยบายเศรษฐกิจมหภาค
ผู้เขียน

นายวณัช บัณฑิตาโสภณ
เศรษฐกรชำนาญการ
นักวิชาการอิสระ
ผู้เขียน