บทความโดย[1]
นายศิรพล ฤทธิ์ประศาสน์
นางสาวกันตา ศุขสาตร
นายพุทธิสมบัติ ปานกุล
[1] บทความนี้เป็นความเห็นของผู้เขียน ไม่ได้สะท้อนความเห็นของหน่วยงาน
1. บทนำ
ปัญหาเศรษฐกิจศรีลังกาสืบเนื่องมาจากสงครามกลางเมืองในประเทศที่ต่อเนื่องยาวนานถึง 26 ปี[2] (พ.ศ. 2526 – 2552) ทำให้ประเทศศรีลังกาไม่มีการพัฒาอุตสาหกรรม และพึ่งพาสินค้าส่งออกพื้นฐานเป็นหลัก เช่น ชา เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงการท่องเที่ยว อีกทั้งรัฐบาลศรีลังกาได้มีการกู้เงินจากต่างประเทศมาเพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเป็นจำนวนมาก ทำให้ประเทศศรีลังกามีความเปราะบางต่อภาคเงินตราต่างประเทศเป็นอย่างมาก ต่อมา เมื่อมีการแพร่ระบาดโควิด-19 เกิดขึ้น รัฐบาลศรีลังกามีความจำเป็นต้องใช้เงินในการเยียวยา และกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ต่าง ๆ ซึ่งส่งผลให้หนี้ของรัฐบาลศรีลังกาเพิ่มสูงขึ้นไปอีก โดยในปี 2021 หนี้ต่างประเทศของศรีลังกาสูงถึงร้อยละ 60 ของจีดีพี และเริ่มขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ประมาณไตรมาสละ 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเงินสำรองระหว่างประเทศ นอกจากนี้เอง การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังทำให้ประเทศศรีลังกาขาดรายได้จากภาคการท่องเที่ยวไปด้วย ซึ่งส่งผลให้ศรีลังกาขาดแคลนเงินตราต่างประเทศเพื่อมาใช้ชำระหนี้ต่างประเทศ โดยศรีลังกาพึ่งพาการท่องเที่ยวคิดเป็นร้อยละ 10.4 ของจีดีพี (ข้อมูลเมื่อปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่โควิด-19 แพร่ระบาด)
[2] บัณฑิต นิจถาวร. (13 กันยายน 2564). ศรีลังกา จากโควิดสู่วิกฤติการเงิน. กรุงเทพธุรกิจ. https://www.bangkokbiznews.com/business/1004331
2. สถานการณ์ทั่วไปของวิกฤตเศรษฐกิจศรีลังกา
ในปัจจุบัน ศรีลังกากำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปี ประชาชนจำนวนประมาณ 22 ล้านคนกำลังเผชิญกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง รวมถึงการขาดแคลนเชื้อเพลิง ยารักษาโรค และสิ่งของที่จำเป็นอย่างหนัก[3] ศรีลังกากำลังประสบกับอัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยล่าสุดอัตราเงินเฟ้อศรีลังกาเดือน เม.ย. 65 อยู่ที่ร้อยละ 29.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และรัฐบาลต้องใช้วิธีตัดไฟวันละกว่าสิบชั่วโมงเนื่องจากประสบปัญหาการขาดแคลนเชื้อเพลิงเพื่อผลิตไฟฟ้า และเพื่อลดรายจ่ายของภาครัฐ อีกทั้ง ยังมีการชุมนุมประท้วงรัฐบาลศรีลังกาทั่วประเทศ เนื่องจากประชาชนไม่พอใจการบริหารประเทศโดยรัฐบาลของตระกูลราชปักษา รวมถึงมีการเผาทำลายบ้านพักของเหล่านักการเมืองฝ่ายบริหารหลายแห่ง
[3] Timeline of Sri Lanka’s worst economic crisis since independence. (2022, April 13). Al Jazeera. https://www.aljazeera.com/news/2022/4/13/timeline-of-sri-lankas-worst-economic-crisis-since-independence
นอกจากนี้ ทางธนาคารกลางศรีลังกาได้กล่าวว่า ขณะนี้ยังคงเป็นไปไม่ได้ที่จะชำระหนี้ต่างประเทศ เนื่องจากมีความจำเป็นที่ต้องเก็บเงินสดสำรองระหว่างประเทศไว้เพื่อใช้ซื้อสินค้านำเข้าที่สำคัญ อาทิ เชื้อเพลิง
โดยสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า[4] ปริมาณเงินสดสำรองของศรีลังกาลดลงอย่างรวดเร็วมากกว่า 2 ใน 3 ในช่วงสองปีที่ผ่านมา สืบเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของประเทศ ประกอบกับการก่อหนี้ของรัฐบาล อีกทั้ง ทางสำนักข่าว AP ได้รายงานว่า[5] ศรีลังกามีหนี้ต่างประเทศที่จะต้องจ่ายคืนประมาณ 25,000 ล้านดอลลาร์ภายในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า และเฉพาะในปี 2565 ก็ถึงกำหนดจะต้องชำระคืนประมาณ 7,000 ล้านดอลลาร์
[4] Jayasinghe, U., & Rosario, J. D. (2022, April 12). Sri Lanka unilaterally suspends external debt payments, says it needs money for essentials. Reuters. https://www.reuters.com/world/asia-pacific/sri-lanka-temporarily-suspend-foreign-debt-payments-c-bank-governor-2022-04-12/
[5] Francis, K., & Mallawarachi, B. (2022, April 19). Sri Lankan president admits mistakes led to economic crisis. AP NEWS. https://apnews.com/article/business-biden-cabinet-sri-lanka-mahinda-rajapaksa-c85718a88d4ff03d2a72f969eb595afa
3. ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย
ทางด้านมูลค่าการค้ารวมระหว่างไทยกับศรีลังกา ในปี 2564 มีมูลค่าประมาณ 428.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (13,517 ล้านบาท) โดยแบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 360.8 ล้านดอลาร์สหรัฐ (11,346 ล้านบาท) ด้านการนำเข้ามีมูลค่ารวม 68.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2,171 ล้านบาท) ทั้งนี้ จากมูลค่าการส่งออกที่มูลค่ามากกว่านำเข้าอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ไทยถือเป็นประเทศผู้ส่งออกโดยสุทธิกับประเทศศรีลังกามาโดยตลอด
ด้านการส่งออก ในปี 2564 ประเทศศรีลังกาเป็นตลาดส่งออกของไทยอันดับที่ 47 โดยการส่งออกของไทยไปยังตลาดศรีลังกามีสัดส่วนเพียงร้อยละ 0.13 ของมูลค่าการส่งออกรวม ทั้งนี้ สินค้าส่งออก 5 อันดับแรก ได้แก่ ยางพารา เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ผ้าผืน เม็ดพลาสติก และอัญมณีและเครื่องประดับ
ชื่อสินค้า |
มูลค่า : ล้านเหรียญสหรัฐ |
||
---|---|---|---|
2562 |
2563 |
2564 |
|
– ยางพารา |
20.85 |
16.29 |
43.28 |
– เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล |
13.10 |
19.54 |
29.68 |
– ผ้าผืน |
41.24 |
26.68 |
28.24 |
– เม็ดพลาสติก |
15.26 |
13.54 |
25.82 |
– อัญมณีและเครื่องประดับ |
10.31 |
11.99 |
15.84 |
– ปลาแห้งและส่วนต่าง ๆ แห้ง ใส่เกลือหรือรมควัน |
31.78 |
21.81 |
14.83 |
– ผลิตภัณฑ์ยาง |
9.89 |
9.31 |
14.03 |
– น้ำตาลทราย |
37.48 |
12.31 |
12.52 |
– เคมีภัณฑ์ |
11.38 |
10.84 |
11.72 |
– เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ |
17.63 |
19.92 |
11.68 |
รวม 10 รายการ |
208.91 |
162.24 |
207.65 |
อื่น ๆ |
167.24 |
140.48 |
153.16 |
รวมทั้งสิ้น |
376.15 |
302.72 |
360.81 |
ด้านการนำเข้า ในปี 2564 ศรีลังกาเป็นแหล่งนำเข้าของไทยอันดับที่ 84 โดยไทยนำเข้าจากศรีลังกาคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 0.03 ของมูลค่าการนำเข้ารวม ทั้งนี้ มีสินค้านำเข้า 5 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องเพชรพลอยและอัญมณีฯ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เสื้อผ้าสำเร็จรูป พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช และผ้าผืน
ชื่อสินค้า |
มูลค่า : ล้านเหรียญสหรัฐ |
||
---|---|---|---|
2562 |
2563 |
2564 |
|
– เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ |
33.88 |
24.15 |
37.00 |
– เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ |
4.96 |
3.99 |
4.94 |
– เสื้อผ้าสำเร็จรูป |
7.87 |
5.65 |
4.91 |
– พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช |
7.40 |
5.74 |
3.83 |
– ผ้าผืน |
3.08 |
1.07 |
2.70 |
– สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป |
3.98 |
3.48 |
2.62 |
– ลวดและสายเคเบิล |
3.48 |
3.81 |
2.47 |
– เคมีภัณฑ์ |
0.74 |
0.83 |
1.63 |
– กาแฟ ชา เครื่องเทศ |
1.73 |
1.00 |
1.33 |
– ด้ายและเส้นใย |
1.25 |
0.78 |
1.15 |
รวม 10 รายการ |
68.36 |
50.51 |
62.58 |
อื่น ๆ |
10.63 |
22.21 |
5.47 |
รวมทั้งสิ้น |
78.99 |
72.72 |
68.05 |
จากตารางที่ 1 และ 2 พบว่าประเทศไทยมีความสัมพันธ์ทางด้านการค้ากับประเทศศรีลังกาที่น้อยมาก และประเทศศรีลังกาถือว่าไม่ใช่ประเทศคู่ค้าหลักของประเทศไทย จึงทำให้ผลกระทบทางด้านการส่งออก และการนำเข้าระหว่างประเทศไทยและประเทศศรีลังกามีจำกัดจากวิกฤตเศรษฐกิจศรีลังกานี้
ด้านการลงทุน ศรีลังกามียอดคงค้างเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment: FDI) ในประเทศไทยต่ำมาก โดยไม่พบข้อมูล FDI ของศรีลังกาในประเทศไทย รวมถึง ประเทศไทยก็มีการลงทุนโดยตรงในประเทศศรีลังกาต่ำมากเช่นกัน โดยไม่พบข้อมูล FDI ของไทยในศรีลังกา (อ้างอิงข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย) โดยรวมแล้วประเทศไทยมีความสัมพันธ์ทางด้านการลงทุนกับประเทศศรีลังกาที่น้อย จึงทำให้ประเทศไทยจะไม่ได้รับผลกระทบด้านการลงทุนมากนักการที่ประเทศศรีลังกาเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ
ด้านการท่องเที่ยว โดยในปี 2564 มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากศรีลังกาเพียงจำนวน 576 คน จากนักท่องเที่ยวทั้งหมดประมาณ 4.27 แสนคน จึงทำให้ภาคการท่องเที่ยวไทยจะไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากการที่ประเทศศรีลังกาเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ
โดยสรุปแล้ว ประเทศไทยถือว่ามีความเกี่ยวข้องทางเศรษฐกิจกับประเทศศรีลังกาไม่มากนัก ดังนั้น
การส่งผ่านผลกระทบทางเศรษฐกิจจากประเทศศรีลังกาที่กำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจมาสู่ประเทศไทย จึงส่งผลกระทบมาได้น้อย
4. เปรียบเทียบเสถียรภาพทางด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยและประเทศศรีลังกา
ร้อยละ |
ไทย |
ศรีลังกา |
||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP growth) |
2562 |
2563 |
2564 |
2565f |
2562 |
2563 |
2564 |
2565f |
2.3 |
-6.1 |
1.6 |
3.5 |
2.3 |
-3.6 |
3.7 |
2.4 |
|
หนี้สาธารณะต่อจีดีพี |
60.17 (ก.พ. 2565) |
119 (ธ.ค. 2564) |
||||||
ดุลบัญชีเดินสะพัดต่อจีดีพี (ไตรมาส 4 ปี 2564) |
-1.84 |
-4.6 |
||||||
ทุนสำรองระหว่างประเทศ (ธ.ค. 2564, ล้านดอลลาร์) |
245,997 |
2,362 |
||||||
ทุนสำรองระหว่างประเทศต่อการนำเข้า |
9.5 |
1.46 |
||||||
อัตราเงินเฟ้อ (เม.ย. 2565) |
4.7 |
29.8 |
||||||
ความน่าเชื่อถือของประเทศ (Moody’s) |
Baa1 |
C |
||||||
ความน่าเชื่อถือของประเทศ (Fitch) |
BBB+ |
C |
||||||
ดุลการคลังต่อจีดีพี (ไตรมาส 3 ปี 2564) |
0.1 |
-11.1 |
||||||
อัตราแลกเปลี่ยน (YTD ณ สิ้นเดือน มี.ค. 65, |
+0.02 |
-46.39 |
||||||
หมายเหตุ: ค่าเงินสกุลต่างๆ เครื่องหมาย + คือแข็งค่าขึ้น และเครื่องหมาย – คืออ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ |
จากตารางที่ 3 จะสังเกตได้ว่า เศรษฐกิจไทยยังมีเสถียรภาพที่ดีกว่าศรีลังกา ทั้งประเด็นของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ที่อยู่ในระดับที่สูง ค่าเงินบาทที่มีเสถียรภาพ สัดส่วนหนี้สาธารณะยังอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลัง รวมทั้งระดับความน่าเชื่อถือของประเทศที่อยู่ในระดับดีกว่ามาก สะท้อนพื้นฐานเศรษฐกิจด้านต่างประเทศและระบบการเงินของไทยที่ยังมีความเข้มแข็ง ซึ่งจะสามารถรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ และมีโอกาสน้อยที่จะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจดังเช่นประเทศศรีลังกาขึ้น
5. บทสรุป
ปัญหาเศรษฐกิจศรีลังกาสืบเนื่องมาจากสงครามกลางเมืองที่ต่อเนื่องยาวนานถึง 26 ปี รวมถึงการที่รัฐบาลศรีลังกาได้มีการกู้เงินจากต่างประเทศมาเพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมาก ส่งผลให้ศรีลังกามีความเปราะบางต่อภาคเงินตราต่างประเทศ อีกทั้ง เมื่อประสบกับวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้ศรีลังกาขาดรายได้จากภาคการท่องเที่ยว จึงยิ่งทำให้ปัญหาที่ศรีลังกาขาดแคลนเงินตราต่างประเทศเพื่อมาใช้ชำระหนี้ต่างประเทศหนักขึ้นไปอีก อย่างไรก็ดี สำหรับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจศรีลังกาสู่วิกฤตเศรษฐกิจไทย คาดว่ามีผลกระทบไม่มากนัก เนื่องจากประเทศไทยมีความสัมพันธ์ทั้งทางด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวกับศรีลังกาที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ
ในแง่ของวิกฤตเศรษฐกิจที่ศรีลังกากับเผชิญอยู่ เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศไทยถือว่ามีโอกาสน้อยที่จะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจดังเช่นประเทศศรีลังกาขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังมีเสถียรภาพที่ดีกว่าศรีลังกา ทั้งประเด็นของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่อยู่ในระดับที่สูง ค่าเงินบาทที่มีเสถียรภาพ สัดส่วนหนี้สาธารณะยังอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลัง ความน่าเชื่อถือของประเทศที่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอยู่ สะท้อนพื้นฐานเศรษฐกิจด้านต่างประเทศและระบบการเงินของไทยที่ยังมีความเข้มแข็ง ซึ่งจะสามารถรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจการเงินโลกได้
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังคงต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ยกระดับภาคการผลิตให้สามารถผลิตสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูงที่เป็นที่ต้องการของตลาดโลกให้ได้ ตลอดจนถึงการส่งเสริม R&D หรือการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้ประเทศไทยมีองค์ความรู้ในการสร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นของตัวเอง อันจะนำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้ในอนาคตต่อไป นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการยกระดับรายได้ของประเทศไทยเข้าสู่ประเทศที่มีระดับรายได้สูงได้อีกด้วย เพื่อให้ถ้าหากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหม่ในอนาคต ประเทศไทยจะสามารถรับมือกับวิกฤตดังกล่าวได้โดยไม่รับผลกระทบมากนัก
นายศิรพล ฤทธิ์ประศาสน์
เศรษฐกรชำนาญการพิเศษ
สำนักนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
ผู้เขียน
นางสาวกันตา ศุขสาตร
เศรษฐกรปฏิบัติการ
สำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค
ผู้เขียน
นายพุทธิสมบัติ ปานกุล
เศรษฐกรปฏิบัติการ
สำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค
ผู้เขียน